|
การจัดงานของมูลนิธิรักเมืองไทยแต่ละครั้งจะมีการกำหนดเป้าหมายในเรื่องการก่อสร้างอาคารเรียนให้โรงเรียน ไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นที่ใดแต่ก็มีบางครั้งที่บางจังหวัดซึ่งไม่ขาดแคลนก็ยินดีมอบรายได้การจัดงานให้กับจังหวัดอื่นที่มีความเดือดร้อน.... |
|
"เวลาเราไปจัดแข่งขันที่จังหวัดใด เราก็จะประกาศให้ประชาชนทราบชัดเจน เลยว่าจะไปสร้างอาคารเรียนที่ไหน ท่านนายกฯ เปรมแต่งตั้งให้ท่านปลัดพิศาล ซึ่งเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานจัดงานทุกครั้งส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดก็จะเป็นรองประธาน |
|
กลางวันเป็นการแข่งขันฟุตบอล ส่วนกลางคืนก็มีงานสวนสนุก จัดเช่นนี้เหมือนกัน ทุกจังหวัดแต่ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของทางจังหวัดด้วย แล้วก็มีข้อแม้อยู่ว่า จังหวัดหนึ่งต้องได้เงินมาพอสร้างอาคารเรียนมูลนิธิก็ยังไม่ค่อยมีเงินแต่บางครั้งก็มีสถานการณ์พิเศษ อย่างตอนที่เราไปจัดที่ภูเก็ตหาเงินได้ 2 ล้าน ภูเก็ตช่วงนั้นยังไม่มีความจำเป็นในเรื่องการสร้างอาคารเรียนก็มอบรายได้ทั้งหมดให้มูลนิธิเลยแล้ว มูลนิธิก็นำไปมอบให้กับจังหวัดพัทลุงซึ่งมีความขาดแคลนไป 6 แสนบาทเพื่อสร้างอาคารเรียน ปลัดพิศาลฯ ก็ร้องขอกับทางจังหวัดผู้รับเหมาได้กำไรจากงานอื่นมาเยอะแล้วขอให้ช่วยสร้างโรงเรียนให้มูลนิธิซึ่งก็ได้รับความร่วมมือด้วยความเต็มใจเพราะ ทุกคนรักป๋า |
|
นอกจากที่ภูเก็ตแล้วที่พิจิตร เขาก็ไม่เอาแต่ยกเงินที่ได้จากการบริจาคให้มูลนิธิทั้งหมด ป๋าท่านก็คืนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไป 1 ล้านบาท เพื่อตั้งเป็นมูลนิธิรักเมืองไทยสาขาพิจิตรเงินก็ยังได้ใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน เอาไปสนับสนุนการกีฬาบ้างอย่างอื่นบ้าง |
|
เราไปจัดงานที่ไหน เราจะทราบกันคืนนั้นเลยว่ามีใครบริจาคเงินเท่าไหร่ รวมแล้วเท่าไหร่ตัวเลขจะขึ้นเลยแม้ตัวเงินจะยังไม่เต็มตามนั้น เงินเหล่านี้จะส่งเข้ามูลนิธิก่อน จากนั้นหากมูลนิธิ จะสร้างโรงเรียนที่ไหน เมื่อประสานกับทางจังหวัดว่าพร้อมแล้วจะใช้เงินเท่าใด มูลนิธิก็จัดส่งไปให้ |
|
เราสร้างอาคารเรียนไปแล้ว 30 แห่ง คิดเป็นมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท ค่าก่อสร้างอาคารเรียนเดี๋ยวนี้ตกประมาณหลังละ 2 ล้านบาท” |
|
(คำบอกเล่าของคุณชัยรัตน์ คำนวณ เลขาธิการมูลนิธิฯ ท่านแรก) |